รากบัวมีสรรพคุณทางยาเอนกอนันต์ มีรสหวานมัน แก้อาการอ่อนเพลีย ชูกำลัง ช่วยให้สดชื่น ช่วยเจริญอาหาร ดับกระหาย แก้เสมหะ น้ำลายเหนียว แก้ไอ ดับพิษร้อนให้ปอดชุ่มชื้น ช่วยลดความดันโลหิต แก้ปวดบวม มีประโยชน์ต่อกระเพาะอาหาร ร่างกายขาดความสมดุล ผู้อยู่ในวัยทองมีอาการนอนไม่หลับก็สามารถช่วยได้และเป็นยาชูกำลัง
ดื่มน้ำต้มรากบัววันละ 2-3 แก้ว จะช่วยแก้อาการผิดปกติในระบบย่อยอาหารได้ดีเยี่ยม ตั้งแต่อาการท้องเดิน ไปจนถึงอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และช่องทวารหนัก (ซึ่งสังเกตได้จากมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ) ตลอดจนช่วยเจริญอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการเลือดกำเดา เลือดออกตามไรฟัน ตลอดจนช่วยลดอาการอาเจียนเป็นเลือด ทั้งยังกินแก้พิษอักเสบ แก้ปอดบวม และเป็นยาชูกำลัง สำหรับคุณค่าทางอาหาร รากบัวอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงโลหิต มีวิตามินบี วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงและมีใยอาหารปริมาณมาก ช่วยแก้อาการท้องผูกได้ชะงัด ส่วนผสม รากบัวปอกเปลือกหั่นชิ้น 300 กรัม น้ำกรอง 2,000 มิลลิลิตร น้ำตาลทราย ไม่ฟอก 250 กรัม วิธีทำ 1. ต้มน้ำกรองพอเดือด ใส่รากบัว ต้มด้วยไฟกลาง 2. รอเดือด ใส่น้ำตาลทราย ไม่ฟอก คนให้ละลาย ต้มให้เดือดอีกรอบ 3. เปิดฝา แงมไว้เล็กน้อย ต้มด้วยไฟอ่อนต้มต่อประมาณ 10 นาที ให้รากบัวสุกนิ่ม 4. ปิดไฟ ปิดฝาให้สนิทพักไว้ประมาณ 15 นาทีเพื่ออบไว้ให้หอมกลิ่นรากบัว 5. กรองน้ำรากบัวด้วยผ้าขาวบาง เก็บเข้าตู้เย็นไว้ดื่มให้ชื่นใจ